นิทานล้านนา เรื่อง สามสหายไปเรียนวิชา ยังมีสหายสามคนถูกเพื่อนเยาะเย้ยอยู่เสมอว่าโง่ ไม่มีปัญญาทันคนอื่น นึกขัดใจใคร่จะไปเล่าเรียนหาความรู้ให้มีปัญญาหายโง่ จึงชักชวนกันไปเรียนวิชาที่เมืองตักศิลา ต้องมีคำ ( ทอง ) ติดตัวไปคนละพัน
พอถึงเวลาออกเดินทางไป สามสหายต่างกลัวว่าใครเดินหน้าก็จะไปถึงตัว อาจารย์ก่อน ก็จะเอาวิชาจากอาจารย์เสียหมดคนเดียว ไม่มีอะไรเหลือมาถึงคนที่เดินตามมาข้างหลังอีก ๒ คน จึงไม่ยอมให้ใครเดินขึ้นหน้าไปก่อน ต้องไปเอาไม้วามาปะอกเดินไปพร้อมกัน ทันกันทั้งสามคน ใครจะเดินล้ำหน้าใครขึ้นไปไม่ได้ ก็จะได้ถึงอาจารย์พร้อมกันและได้รับส่วนแบ่งวิชาเท่า ๆ กัน
ที่มาRead the rest of this entry »
วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง อ้ายก้องขี้จุ๊
นิทานล้านนา เรื่อง อ้ายก้องขี้จุ๊ ใครๆในเวลานั้นก็รู้กันว่าอ้ายก้องเป็นคนขี้จุ๊ ( มักกล่าวเท็จ ) จุ๊ไม่เลือกว่าเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นธุเจ้า ( พระสงฆ์ ) หรือเป็นพระยาเจ้าเมือง
เรื่องที่ก้องหลอกพ่อแม่ มีเรื่องเล่าดังนี้
วันหนึ่งก้องลาพ่อแม่ไปเที่ยวที่ไกล หายหน้าไปหลายวัน พอกลับมาก็เล่าให้พ่อแม่ฟังว่าที่ไปเที่ยวมานั้นม่วน ( สนุก ) มาก ค้าขายก็ดี พ่อค้าวัวต่างวัวหลัง ( ขายดี ของที่บรรทุกหลังวัวมาหมดเกลี้ยง ) ทำให้ก้องอยากเป็นพ่อค้าวัวต่างบ้าง ขอให้พ่อช่วยซื้อวัว ซื้อสินค้าให้ แล้วชวนพ่อไปค้ากับตนที่เมืองนั้น พ่อเองทั้งนึกกลัวว่าก้องจะจุ๊เอาอีกอย่างที่แล้ว ๆ มา แต่ก้องก็ยืนยันว่าคราวนี้จะไม่จุ๊แน่นอน ทั้งพ่อก็กำกับ
ที่มา Read the rest of this entry »
เรื่องที่ก้องหลอกพ่อแม่ มีเรื่องเล่าดังนี้
วันหนึ่งก้องลาพ่อแม่ไปเที่ยวที่ไกล หายหน้าไปหลายวัน พอกลับมาก็เล่าให้พ่อแม่ฟังว่าที่ไปเที่ยวมานั้นม่วน ( สนุก ) มาก ค้าขายก็ดี พ่อค้าวัวต่างวัวหลัง ( ขายดี ของที่บรรทุกหลังวัวมาหมดเกลี้ยง ) ทำให้ก้องอยากเป็นพ่อค้าวัวต่างบ้าง ขอให้พ่อช่วยซื้อวัว ซื้อสินค้าให้ แล้วชวนพ่อไปค้ากับตนที่เมืองนั้น พ่อเองทั้งนึกกลัวว่าก้องจะจุ๊เอาอีกอย่างที่แล้ว ๆ มา แต่ก้องก็ยืนยันว่าคราวนี้จะไม่จุ๊แน่นอน ทั้งพ่อก็กำกับ
ที่มา Read the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง แก้พิษตามราศี
นิทานล้านนา เรื่อง แก้พิษตามราศี ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีลูกเศรษฐีคนหนึ่ง ชอบเดินทางไปค้าขายต่างบ้านต่างเมืองอยู่ไม่ขาดวันหนึ่งไปค้าดังเช่นเคย พร้อมกับบ่าวไพร่หลายคน แต่คราวนี้เคราะห์ร้าย ถูกโจรดักปล้นกลางทางต้องหนีเอาตัวรอด เสียผู้คนข้าวของทั้งหมด พลัดไปแต่ลำพังกับบ่าวที่ติดหน้าตามหลังคนหนึ่งเท่านั้น
สองคนนายบ่าวเดินเซซังไปจนค่ำก็ถึงเมืองแห่งหนึ่ง แต่เข้าพักในเมืองไม่ได้ เพราะประตูเมืองปิดเสียแล้ว จึงต้องอาศัยพักแรมอยู่ที่ศาลานอก
ที่มาRead the rest of this entry »
สองคนนายบ่าวเดินเซซังไปจนค่ำก็ถึงเมืองแห่งหนึ่ง แต่เข้าพักในเมืองไม่ได้ เพราะประตูเมืองปิดเสียแล้ว จึงต้องอาศัยพักแรมอยู่ที่ศาลานอก
ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง พี่น้องสองชาย
นิทานล้านนา นานมาแล้วมีบ้านหลังหนึ่งชื่อว่า บ้านหนามเกตแก้ว มีพี่น้องสองชาย พ่อแม่ตายแล้ว พี่ชายมีโชคลาภวาสนาดี มีอาชีพเป็นช่างทำทอง ไปได้เมียที่ร่ำรวย ส่วนน้องไม่ค่อยจะมีปัญญา แต่ชื่อสัตย์ ไม่คดโกงไม่โกหกตอแหลผู้ใด ฝ่ายพี่ชายมีเล่ห์เหลี่ยมในการทำทอง น้องมีอาชีพทำไม้กวาดขาย
อยู่มาวันหนึ่งน้องเข้าป่าไปตัดต้นจากมาทำไม้กวาดขาย ขณะที่เดินตามทางก็เงยหน้าขึ้นไปทางเหนือ ไปเจอะเอานกแขกเต้าตัวหนึ่งขนดกเขียวสวยงามดี จึงหยิบก้อนหินได้ลองขว้างนกตัวนั้นพอดีขว้างไปถูกปีกนก ขนนกก็ร่วงลงมาอันหนึ่งแล้วนกก็บินหนีไป ขนนกสวยเหลือ ที่มา
Read the rest of this entry »
อยู่มาวันหนึ่งน้องเข้าป่าไปตัดต้นจากมาทำไม้กวาดขาย ขณะที่เดินตามทางก็เงยหน้าขึ้นไปทางเหนือ ไปเจอะเอานกแขกเต้าตัวหนึ่งขนดกเขียวสวยงามดี จึงหยิบก้อนหินได้ลองขว้างนกตัวนั้นพอดีขว้างไปถูกปีกนก ขนนกก็ร่วงลงมาอันหนึ่งแล้วนกก็บินหนีไป ขนนกสวยเหลือ ที่มา
Read the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง ชะตามะกอกแห้ง
นิทานล้านนา เรื่อง ชะตามะกอกแห้ง
มีสองคนผัวเมียติดตามกันมาหลายชาติ ผัวไม่ชอบเป็นคนทำบุญให้ทาน เอาแต่ดื่มเหล้าเมาสุรา เล่นไพ่ เล่นลูกเต๋า และเล่นไก่ชน ส่วนเมียเป็นคนชอบทำบุญให้ทาน ใฝ่ใจในทางกุศลทุกชาติอยู่มาชาติหนึ่ง เมียนึ่งข้าวไว้แล้วแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเอาไว้กินกันสองคนผัวเมีย อีกส่วนหนึ่งเอาไว้ตักบาตรและตั้งปรารถนาไว้ว่าหากตายไปชาติใดขอให้ได้พ้น จากผัวคนนี้ อย่าได้พบกันอีกเลยฝ่ายผัวได้ยินก็ตั้งปรารถนาว่า จะเกิดชาติใดก็ขอให้ได้พบเมียตนทุกชาติ ที่มาRead the rest of this entry »
มีสองคนผัวเมียติดตามกันมาหลายชาติ ผัวไม่ชอบเป็นคนทำบุญให้ทาน เอาแต่ดื่มเหล้าเมาสุรา เล่นไพ่ เล่นลูกเต๋า และเล่นไก่ชน ส่วนเมียเป็นคนชอบทำบุญให้ทาน ใฝ่ใจในทางกุศลทุกชาติอยู่มาชาติหนึ่ง เมียนึ่งข้าวไว้แล้วแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเอาไว้กินกันสองคนผัวเมีย อีกส่วนหนึ่งเอาไว้ตักบาตรและตั้งปรารถนาไว้ว่าหากตายไปชาติใดขอให้ได้พ้น จากผัวคนนี้ อย่าได้พบกันอีกเลยฝ่ายผัวได้ยินก็ตั้งปรารถนาว่า จะเกิดชาติใดก็ขอให้ได้พบเมียตนทุกชาติ ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง เสือเย็น
นิทานล้านนา เรื่อง เสือเย็น
‘ โยมเอ้ย ยังไม่นอนอีกหรือ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ” ‘’ ยังก่อนพระคุณเจ้า ยังหาหลับไม่ ” งงนอนเสียเถอะโยมดึกแล้ว พรุ่งนี้จะต้องเดินทางไกล ‘’. ‘’ ขอรับพระคุณเจ้า จะนอนอยู่เดี่ยวนี้ ”
นี่เป็นบทเริ่มต้นของเรื่องเสือเย็น
ครั้งหนึ่งพ่อค้าโคต่างได้พาลูกหาบเข้าไปพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขณะนั่งกินอาหารอยู่นั้นคนในหมู่บ้านได้เตือนด้วยความหวังดีว่า ‘’ จงระวังที่จะเดินทางผ่านป่านี้เพราะมีเสือาร้ายตัวหนึ่งคอยดักทำร้ายคนที่ ผ่านไปมาเสมอ ‘’ พ่อค้าพูดว่า ‘’ ทำไมไม่มีใครคิดฆ่าเสือร้ายตัวนี้ละ
ที่มาRead the rest of this entry »
‘ โยมเอ้ย ยังไม่นอนอีกหรือ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ” ‘’ ยังก่อนพระคุณเจ้า ยังหาหลับไม่ ” งงนอนเสียเถอะโยมดึกแล้ว พรุ่งนี้จะต้องเดินทางไกล ‘’. ‘’ ขอรับพระคุณเจ้า จะนอนอยู่เดี่ยวนี้ ”
นี่เป็นบทเริ่มต้นของเรื่องเสือเย็น
ครั้งหนึ่งพ่อค้าโคต่างได้พาลูกหาบเข้าไปพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขณะนั่งกินอาหารอยู่นั้นคนในหมู่บ้านได้เตือนด้วยความหวังดีว่า ‘’ จงระวังที่จะเดินทางผ่านป่านี้เพราะมีเสือาร้ายตัวหนึ่งคอยดักทำร้ายคนที่ ผ่านไปมาเสมอ ‘’ พ่อค้าพูดว่า ‘’ ทำไมไม่มีใครคิดฆ่าเสือร้ายตัวนี้ละ
ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง กบกินเดือน
นิทานล้านนา เรื่อง กบกินเดือน ในสมัยก่อนพระเจ้าเหา มีครอบครัวหนึ่ง ได้ตั้งบ้านเรือนอยู่นอกเมือง ครอบครัวนี้มีอยู่ด้วยกัน ๔ คน คือ พ่อ แม่ ลูกสาวสองคน ในสมัยนั้นถ้าครอบครัวหไหนมีลูกสาวก็จะกได้รับการอบรมเรื่องภายในบ้านเกี่ยว กับการเป็นแม่บ้านที่ดี เช่น การจัดการบ้านการเรือน ความประพฤติ กิริยามารยาท ตลอดจนการทำอาหาร และในครอบครัวนี้ก็ได้อบรมในเรื่อง ต่าง ๆ ตามธรรมเนียมประเพณีต่อมาไม่นานทั้งสองคนก็สามารถที่จะทำได้อย่างชำนาญ
ที่มา Read the rest of this entry »
ที่มา Read the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง ผาวิ่งชู้
นิทานล้านนา เรื่อง ผาวิ่งชู้ นานมาแล้ว มีเจ้าหญิงไตองค์หนึ่ง ( ไต – ไทย ) เมื่อเติบโตเป็นสาวก็ไปหลงรักกับชายหนุ่ม คนหนึ่ง ชายหนุ่มก็หลงรักเจ้าหญิงมาก ทั้งสองมีความรักซึ่งกันและกันอย่างแน่นแฟ้น แต่เพราะความแตกต่างกันในเรื่องฐานะ ศักดิ์ ตระกูล ความรักของเขาทั้งสองจึงมีอุปสรรค มันเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงยากที่จะฟันฝ่าไปให้ถึงจุดหมายได้ ในเมื่อกำเนิดของเขาต่างกันราวฟ้ากับกิน
ที่มาRead the rest of this entry
ที่มาRead the rest of this entry
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง ขายปัญญา
นิทานล้านนา เรื่อง ขายปัญญา
ในกาลก่อนนั้น สติปัญญาความรู้ ความเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องนั้น มีการนำเอามาขายดังสินค้าต่าง ๆ เช่นปัจจุบันนี้ ดังนั้น ตลอดเวลาจะมีผู้นำเอาความรู้หรือเอาตัวปัญญานี้มาขายเสมอ
วันหนึ่งในเวลาบ่าย แดดร้อนจัดจนเป็นเปลว มีชายคนหนึ่งนำเอาปัญญามาขาย โดยบรรจุตัวปัญญาลงในกระทอจนเต็มแล้ว หาบผ่านเปลวแดดมาจนถึงประตูเมือง ครั้นจะเข้าไปทันทีก็เกรงว่าอากาศร้อน ๆ เช่นนี้จะทำให้อารมณ์ของตนเสียไปได้
ที่มาRead the rest of this entry »
ในกาลก่อนนั้น สติปัญญาความรู้ ความเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องนั้น มีการนำเอามาขายดังสินค้าต่าง ๆ เช่นปัจจุบันนี้ ดังนั้น ตลอดเวลาจะมีผู้นำเอาความรู้หรือเอาตัวปัญญานี้มาขายเสมอ
วันหนึ่งในเวลาบ่าย แดดร้อนจัดจนเป็นเปลว มีชายคนหนึ่งนำเอาปัญญามาขาย โดยบรรจุตัวปัญญาลงในกระทอจนเต็มแล้ว หาบผ่านเปลวแดดมาจนถึงประตูเมือง ครั้นจะเข้าไปทันทีก็เกรงว่าอากาศร้อน ๆ เช่นนี้จะทำให้อารมณ์ของตนเสียไปได้
ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง นักเลงปืนเสียท่า
นิทานล้านนา เรื่อง นักเลงปืนเสียท่า หลายปีมาแล้ว มีนักล่าสัตว์ผู้หนึ่งชอบยิงนกยิ่งนัก ทุก ๆ วันเมื่อมีเวลาว่าง เขาจะคว้าปืนคู่มือออกจากบ้านไปเที่ยวหายิงนกตามขอบบึง ซึ่งมีนกเป็ดและนกอื่น ๆ นานาชนิดลงมาหากิน
เขามาคอยดักยิงนกที่นี่เป็นประจำ เมื่อยิงได้นกมากพอเขาก็หิ้วนกที่ยิงได้เป็นพวงโตกลับบ้านเวลาผ่านมาชาวบ้าน และพวกเด็กจะมองดูพวงนกนั้นด้วยความอยากได้ เพราะเขามีฝีมือ
ที่มา Read the rest of this entry »
เขามาคอยดักยิงนกที่นี่เป็นประจำ เมื่อยิงได้นกมากพอเขาก็หิ้วนกที่ยิงได้เป็นพวงโตกลับบ้านเวลาผ่านมาชาวบ้าน และพวกเด็กจะมองดูพวงนกนั้นด้วยความอยากได้ เพราะเขามีฝีมือ
ที่มา Read the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง ย่าผันคอเหนียง
นิทานล้านนา เรื่อง ย่าผันคอเหนียง กาลก่อน ณ หมู่บ้านตั้งอยู่ในชนบท ไกลออกไปจากเมืองหลวง ชาวบ้านมีอาชีพทำไร่ ทำนาหาของป่ามาขาย หมู่บ้านแห่งนี้มีหญิงสาวรูปร่างอาภัพผู้หนึ่ง นางไม่ม้ชายหนุ่มผู้ใดไปเที่ยวหาเลยเนื่องจากนางคอพอกโตใหญ่น่าเกลียด ชาวบ้านเรียกนางว่า ‘’ อีตาคอเหนียง ”
ทุกๆคืนแม้ว่านางจะนั่งปั่นฝ้ายอยู่กลางลานบ้านรอหนุ่ม ๆ มาเที่ยวหา ก็ปรากฏว่าไม่มีใครมาหานางเลย แม้ว่าจะได้ยินเสียงร้องเพลงและเล่นดนตรีของพวกหนุ่มๆ ที่ผ่านมา นางคิดว่าเขาคงจะแวะมาเที่ยวหาตน แต่ปรากฏว่าหนุ่มเหล่านั้นกลับเลยไปบ้านอื่นเสียทุก ๆ คราว
ที่มาRead the rest of this entry »
ทุกๆคืนแม้ว่านางจะนั่งปั่นฝ้ายอยู่กลางลานบ้านรอหนุ่ม ๆ มาเที่ยวหา ก็ปรากฏว่าไม่มีใครมาหานางเลย แม้ว่าจะได้ยินเสียงร้องเพลงและเล่นดนตรีของพวกหนุ่มๆ ที่ผ่านมา นางคิดว่าเขาคงจะแวะมาเที่ยวหาตน แต่ปรากฏว่าหนุ่มเหล่านั้นกลับเลยไปบ้านอื่นเสียทุก ๆ คราว
ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง ปุ๋ยลำไย
นิทานล้านนา เรื่อง ปุ๋ยลำไย
ลุงทาเป็นชาวสวน แกทำสวนลำไยกว้างขวาง ในฤดูลำไยออกดอกออกผล แกมีความสุขใจที่สุด ดังนั้นตลอดวันแกจะขลุกอยู่แต่ในสวนลำไยตลอดเวลา
ลุงทาจะคอยเอาใจใส่ดายหญ้า พรวนดิน และใส่ปุ๋ยรดน้ำ ครั้นฤดูร้อนย่างเข้ามาทางเทศบาลเบื่อสุนัข ลุงทาจะชื้อซากสุนัขเหล่านั้นจากพนักงาน แล้วนำเอาไปฝั่งไว้ที่โคนต้นลำไยต้นละตัว การที่แกทำเช่นนี้ทำให้สวนลำไยของแกงอกงามยิ่งนัก ที่มาRead the rest of this entry »
ลุงทาเป็นชาวสวน แกทำสวนลำไยกว้างขวาง ในฤดูลำไยออกดอกออกผล แกมีความสุขใจที่สุด ดังนั้นตลอดวันแกจะขลุกอยู่แต่ในสวนลำไยตลอดเวลา
ลุงทาจะคอยเอาใจใส่ดายหญ้า พรวนดิน และใส่ปุ๋ยรดน้ำ ครั้นฤดูร้อนย่างเข้ามาทางเทศบาลเบื่อสุนัข ลุงทาจะชื้อซากสุนัขเหล่านั้นจากพนักงาน แล้วนำเอาไปฝั่งไว้ที่โคนต้นลำไยต้นละตัว การที่แกทำเช่นนี้ทำให้สวนลำไยของแกงอกงามยิ่งนัก ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง ผาเผียบ
นิทานล้านนา เรื่อง ผาเผียบ เนื่องจากเมืองนี้ตั้งอยู่ย่านกลางระหว่างภาคเหนือ เรือแพจะขึ้นลงจะต้องแวะเมื่อเวลาผ่านและจอดพักก่อนขึ้นและลงแก่งหน้าเมือง สร้อยเสมอ
ดังนั้นนครแห่งนี้จึงเป็นเสมือนชุมทางค้าขายและเผยแพร่วัฒนธรรม รวมทั้งพระพุทธศาสนาพระสงฆ์ที่มาจากสุโขทัย จากนครศรีธรรมราช จากพม่า และจากลังกา จะขึ้นไปยังนครพิงค์ต้องผ่านเมืองนี้ทุก ๆ ครั้ง
ที่มา Read the rest of this entry »
ดังนั้นนครแห่งนี้จึงเป็นเสมือนชุมทางค้าขายและเผยแพร่วัฒนธรรม รวมทั้งพระพุทธศาสนาพระสงฆ์ที่มาจากสุโขทัย จากนครศรีธรรมราช จากพม่า และจากลังกา จะขึ้นไปยังนครพิงค์ต้องผ่านเมืองนี้ทุก ๆ ครั้ง
ที่มา Read the rest of this entry »
พื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง สองสัตว์
เอกลักษณ์ล้านนา เรื่อง สองสัตว์
ในกาลก่อน มีสัตว์สองตัวเป็นเพื่อนกัน เวลาไปหากินหรือไปในที่ใด ๆ มักจะไปด้วยกันเสมอสัตว์คู่นี้ได้แก่ บ้วน ( นาก ) กับกระต่าย มันหากินอยู่ตามริมฝั่งน้ำปิงเป็นประจำ
อยู่มาวันหนึ่ง นากออกไปหากิน มองเห็นช่องว่างคิดว่าเป็นทางน้ำจึงว่ายเข้าไป พอเข้าไปแล้วปรากฏว่าไปชนสายใยประตูกะต้ำ (เครื่องดักจับปลาชนิดหนึ่งที่ทำไว้ตามข้างตลิ่ง หันหน้าล่องใต้พอปลาตัวโตเข้าไป เมื่อชนสายใยสลักจะหยุดประตูจะเลื่อนตากลงมาปิดไว้ทันทีทำให้ปลาออกไม่ได้)
ที่มาRead the rest of this entry »
ในกาลก่อน มีสัตว์สองตัวเป็นเพื่อนกัน เวลาไปหากินหรือไปในที่ใด ๆ มักจะไปด้วยกันเสมอสัตว์คู่นี้ได้แก่ บ้วน ( นาก ) กับกระต่าย มันหากินอยู่ตามริมฝั่งน้ำปิงเป็นประจำ
อยู่มาวันหนึ่ง นากออกไปหากิน มองเห็นช่องว่างคิดว่าเป็นทางน้ำจึงว่ายเข้าไป พอเข้าไปแล้วปรากฏว่าไปชนสายใยประตูกะต้ำ (เครื่องดักจับปลาชนิดหนึ่งที่ทำไว้ตามข้างตลิ่ง หันหน้าล่องใต้พอปลาตัวโตเข้าไป เมื่อชนสายใยสลักจะหยุดประตูจะเลื่อนตากลงมาปิดไว้ทันทีทำให้ปลาออกไม่ได้)
ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง กะตำป๋าค่ำตุ๊
นิทานล้านนา เรื่อง ควายลุงคำ
ลุงคำอยู่บ้านนอก ไม่เคยไปติดต่อธุระการงานกับทางอำเภอเลย ดังนั้นเรื่องราวหรือวิธีปฏิบัติที่ทางอำเภอได้กระทำไปอย่างไรแกจึงไม่เข้า ใจ แต่แก่เป็นคนที่สนใจ เอาใจใส่สอบถามเขาอยู่เสมอ
ครั้งหนึ่ง ลุงคำมีกิจธุระจะเป็นต้องไปติดต่อกับทางอำเภอ เนื่องจากแกมีควายสองตัว เมื่อควายโตแล้วจะต้องนำไปทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณ เพื่อแสดงกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ
ที่มาRead the rest of this entry »
ลุงคำอยู่บ้านนอก ไม่เคยไปติดต่อธุระการงานกับทางอำเภอเลย ดังนั้นเรื่องราวหรือวิธีปฏิบัติที่ทางอำเภอได้กระทำไปอย่างไรแกจึงไม่เข้า ใจ แต่แก่เป็นคนที่สนใจ เอาใจใส่สอบถามเขาอยู่เสมอ
ครั้งหนึ่ง ลุงคำมีกิจธุระจะเป็นต้องไปติดต่อกับทางอำเภอ เนื่องจากแกมีควายสองตัว เมื่อควายโตแล้วจะต้องนำไปทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณ เพื่อแสดงกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ
ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง ควายลุงคำ
นิทานล้านนา เรื่อง ควายลุงคำ
ลุงคำอยู่บ้านนอก ไม่เคยไปติดต่อธุระการงานกับทางอำเภอเลย ดังนั้นเรื่องราวหรือวิธีปฏิบัติที่ทางอำเภอได้กระทำไปอย่างไรแกจึงไม่เข้า ใจ แต่แก่เป็นคนที่สนใจ เอาใจใส่สอบถามเขาอยู่เสมอ
ครั้งหนึ่ง ลุงคำมีกิจธุระจะเป็นต้องไปติดต่อกับทางอำเภอ เนื่องจากแกมีควายสองตัว เมื่อควายโตแล้วจะต้องนำไปทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณ เพื่อแสดงกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ
ที่มาRead the rest of this entry »
ลุงคำอยู่บ้านนอก ไม่เคยไปติดต่อธุระการงานกับทางอำเภอเลย ดังนั้นเรื่องราวหรือวิธีปฏิบัติที่ทางอำเภอได้กระทำไปอย่างไรแกจึงไม่เข้า ใจ แต่แก่เป็นคนที่สนใจ เอาใจใส่สอบถามเขาอยู่เสมอ
ครั้งหนึ่ง ลุงคำมีกิจธุระจะเป็นต้องไปติดต่อกับทางอำเภอ เนื่องจากแกมีควายสองตัว เมื่อควายโตแล้วจะต้องนำไปทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณ เพื่อแสดงกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ
ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง “ไอ้เซี่ยงเมี่ยงค่ำพญา”
นิทานล้านนา เรื่อง “ไอ้เซี่ยงเมี่ยงค่ำพญา” (ศรีธนญชัยรังแกพญา)
วันหนึ่งเจ้าเมืองเดินทางไปตามบ้านน้อยเมืองใหญ่ ก็ได้ไปพบไอ้ศรีธนญชัย ไม่รู้จักว่าเป็นไอ้ศรีธนญชัย ไอ้ศรีธนญชัยก็ทักเจ้าเมืองว่า ‘’ สาธุ ท่านเจ้าเมืองจะไปไหน ‘’ เจ้าเมืองตอบว่า ‘’ จะไปเที่ยว ‘’ ไอ้ศรีธนญชัยก็ว่า ‘’ เจ้าเมืองนี่ข้าหลอกได้แน่นอน ” ‘’ เด็กน้อยอย่างเจ้านะหรือ จะมาหลอกเราได้ ‘’ เจ้าเมืองตอบ ‘’ จะหลอกข้าอย่างไรล่ะ ‘’ ‘’ ไม่ยากหรอก ถ้าจะหรอกละก็ ” ‘’ ก็ไหนลองหลอกกูดูทีซิ ” ‘’ โอ งั้นหรือ งั้นก็ลงมานี่ก่อนซิ เจ้าเมืองลงมาเสียก่อนแล้วข้าจะหลอก ” ทันใดนั้น เจ้าเมืองก็ลงไป ไอ้ศรีธนญชัยก็ว่า ‘’ นี่ไงล่ะ เจ้าเมืองก็ลงมาตามที่ข้าหลอก ” ตอนนี้ ก็นับได้ว่าไอ้ศรีธนญชัยหลอกเจ้าเมืองได้
ที่มาRead the rest of this entry »
วันหนึ่งเจ้าเมืองเดินทางไปตามบ้านน้อยเมืองใหญ่ ก็ได้ไปพบไอ้ศรีธนญชัย ไม่รู้จักว่าเป็นไอ้ศรีธนญชัย ไอ้ศรีธนญชัยก็ทักเจ้าเมืองว่า ‘’ สาธุ ท่านเจ้าเมืองจะไปไหน ‘’ เจ้าเมืองตอบว่า ‘’ จะไปเที่ยว ‘’ ไอ้ศรีธนญชัยก็ว่า ‘’ เจ้าเมืองนี่ข้าหลอกได้แน่นอน ” ‘’ เด็กน้อยอย่างเจ้านะหรือ จะมาหลอกเราได้ ‘’ เจ้าเมืองตอบ ‘’ จะหลอกข้าอย่างไรล่ะ ‘’ ‘’ ไม่ยากหรอก ถ้าจะหรอกละก็ ” ‘’ ก็ไหนลองหลอกกูดูทีซิ ” ‘’ โอ งั้นหรือ งั้นก็ลงมานี่ก่อนซิ เจ้าเมืองลงมาเสียก่อนแล้วข้าจะหลอก ” ทันใดนั้น เจ้าเมืองก็ลงไป ไอ้ศรีธนญชัยก็ว่า ‘’ นี่ไงล่ะ เจ้าเมืองก็ลงมาตามที่ข้าหลอก ” ตอนนี้ ก็นับได้ว่าไอ้ศรีธนญชัยหลอกเจ้าเมืองได้
ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง ใครโง่กว่าใคร
นิทานล้านนา เรื่อง ใครโง่กว่าใคร
มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า หมายปีมาแล้ว มีชายผู้หนึ่งชื่อ คง ทิดคงนี้เคยบวชเป็นพระภิกษุหลายพรรษา ต่อมาได้สึกและแต่งงานอยู่กินกับภรรยาจนมีบุตรคนหนึ่ง
ทิดคงและครอบครัวมีอาชีพในทางทำนา แกมีนาส่วนตัวอยู่แปลงหนึ่ง แกทำนาด้วยตนเองทุก ๆ ปี นานี้อยู่ห่างจากบ้านของแกราว ๆ ๔ – ๕ กิโลเมตร
เวลาเช้าทิดคงจะออกไปไถนาพร้อมกับควาย ครั้นตอนสายและกลางวันลูกสาวจะเป็นผู้นำอาหารไปส่งให้เสมอ วันหนึ่งตอนบ่าย ภรรยาไปตลาดซื้อปลามาตัวหนึ่ง เอาไปแกงส้มอร่อยมากนางคิดถึงสามี จึงขอร้องให้ลูกสาวช่วยนำอาหารมื้อนี้ไปส่งให้ด้วย ลูกสาวรับของออกเดินจากบ้านไป ขณะที่เดินทางฝ่าแดดที่กำลังร้อนจัด ประกอบกับวันนั้นบุตรสาวต้องทำงานที่บ้านแต่เช้าจนบ่ายเมื่อฝ่าแดดมารู้สึก เหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก นางจึงหยุดพักวางหม้อข้าวหม้อแกงลง นั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้คิดว่าพอหายเหนื่อยแล้วตนจึงค่อยเดินทางต่อไป พอดีมีลมโชยมา นาง
ที่มาRead the rest of this entry »
มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า หมายปีมาแล้ว มีชายผู้หนึ่งชื่อ คง ทิดคงนี้เคยบวชเป็นพระภิกษุหลายพรรษา ต่อมาได้สึกและแต่งงานอยู่กินกับภรรยาจนมีบุตรคนหนึ่ง
ทิดคงและครอบครัวมีอาชีพในทางทำนา แกมีนาส่วนตัวอยู่แปลงหนึ่ง แกทำนาด้วยตนเองทุก ๆ ปี นานี้อยู่ห่างจากบ้านของแกราว ๆ ๔ – ๕ กิโลเมตร
เวลาเช้าทิดคงจะออกไปไถนาพร้อมกับควาย ครั้นตอนสายและกลางวันลูกสาวจะเป็นผู้นำอาหารไปส่งให้เสมอ วันหนึ่งตอนบ่าย ภรรยาไปตลาดซื้อปลามาตัวหนึ่ง เอาไปแกงส้มอร่อยมากนางคิดถึงสามี จึงขอร้องให้ลูกสาวช่วยนำอาหารมื้อนี้ไปส่งให้ด้วย ลูกสาวรับของออกเดินจากบ้านไป ขณะที่เดินทางฝ่าแดดที่กำลังร้อนจัด ประกอบกับวันนั้นบุตรสาวต้องทำงานที่บ้านแต่เช้าจนบ่ายเมื่อฝ่าแดดมารู้สึก เหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก นางจึงหยุดพักวางหม้อข้าวหม้อแกงลง นั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้คิดว่าพอหายเหนื่อยแล้วตนจึงค่อยเดินทางต่อไป พอดีมีลมโชยมา นาง
ที่มาRead the rest of this entry »
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง เซี่ยงเมี่ยงแบ่งช้าง
สิงหาคม 11th, 2009นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ-เรื่อง เซี่ยงเมี่ยงแบ่งช้าง
นิทานล้านนา เรื่อง เซี่ยงเมี่ยงแบ่งช้าง
บรรดาบุคคลที่เฉลียวฉลาดและสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้โดยคล่องแคล่วว่องไวใน วรรณคดีของไทยแล้ว ทุกคนต้องยกให้เซี่ยงเมี่ยง บางคนถึงเติมสร้อยให้ว่า เซี่ยงเมี่ยงเจ้าปัญญา
มีช้างพังเชือกหนึ่งของเจ้าผู้ครองประเทศข้างเคียง หลงทางพลัดเข้าในสวนของเซี่ยงเมี่ยง เซี่ยงเมี่ยงสั่งให้ข้าทาสของตนจับช้างนั้นไว้ เขานำเอาช้างพังตัวนั้นไปรับจ้างชักลากฟืน ตลอดจนบรรทุกของต่าง ๆ
ที่มา Read the rest of this entry »
นิทานล้านนา เรื่อง เซี่ยงเมี่ยงแบ่งช้าง
บรรดาบุคคลที่เฉลียวฉลาดและสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้โดยคล่องแคล่วว่องไวใน วรรณคดีของไทยแล้ว ทุกคนต้องยกให้เซี่ยงเมี่ยง บางคนถึงเติมสร้อยให้ว่า เซี่ยงเมี่ยงเจ้าปัญญา
มีช้างพังเชือกหนึ่งของเจ้าผู้ครองประเทศข้างเคียง หลงทางพลัดเข้าในสวนของเซี่ยงเมี่ยง เซี่ยงเมี่ยงสั่งให้ข้าทาสของตนจับช้างนั้นไว้ เขานำเอาช้างพังตัวนั้นไปรับจ้างชักลากฟืน ตลอดจนบรรทุกของต่าง ๆ
ที่มา Read the rest of this entry »
นิทานชาดก
ตุลาคม 12th, 2009นิทานชาดก – ยอดหญิงกตัญญู
สาเหตุที่ตรัสชาดก :: …..สมัยพุทธกาล ณ แคว้นโกศล มีโจรกลุ่มหนึ่งปล้นสะดมชาวบ้านแล้วหนีไป ชาวบ้านจึงพากันหาโจรจนมาถึงหมู่บ้านชายแดนแห่งหนึ่ง พบชาย ๓ คนกำลังไถนาอยู่ จึงคิดว่าเป็นโจรปลอมเป็นชาวนา จึงจับกุมทุบตีแล้วคุมตัวมาถวายพระเจ้าโกศล …..ต่อมา ได้มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง เดินร้องให้รำพันรอบๆ พระราชวัง ขอพระราชทานเครื่องนุ่งห่ม ความทราบถึงพระเจ้าโกศล พระองค์มีรับสั่งให้นำผ้าสาฎกไปมอบให้แก่นาง แต่นางกลับยิ่งร้องไห้หนักขึ้นและกล่าว “ขอพระราชทานเครื่องนุ่งห่ม คือสามี” …..ราชบุรุษจึงนำนางไปเข้าเฝ้า พระเจ้าโกศลได้ทรงซักถาม นางจึงว่า “สามีชื่อว่าเครื่องนุ่งห่มของหญิง เมื่อไม่มีสามี แม้จะนุ่งห่มผ้าราคาตั้ง ๑,๐๐๐ กษาปณ์ ก็ชื่อว่าหญิงเปลือยอยู่นั่นเอง แม่น้ำไม่มีน้ำ ชื่อว่าเปลือย แว่นแคว้นไม่มีราชา ชื่อว่าเปลือย หญิงปราศจากสามี ถึงจะมีพี่น้องตั้ง ๑๐ คน ก็ชื่อว่าเปลือย” …..พระเจ้าโกศลเกิดเลื่อมใสจึงตรัสคืนชายหนึ่งคนให้ นางจึงขอพี่ชายและให้เหตุผลว่า ถ้ายังมีชีวิตย่อมหาสามีใหม่และมีบุตรใหม่ได้ แต่บิดามารดาได้สิ้นชีวิตไปแล้ว ไม่อาจจะมีพี่ชายได้อีก พระเจ้าโกศลเห็นความฉลาดของนางจึงโปรดไว้ชีวิตชายทั้งสาม …..เรื่องดังกล่าวเลื่องลือแม้กระทั่งในหมู่ภิกษุ ความทราบถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงระลึกชาติหนหลังด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ แล้วตรัสเล่า อุจฉังคชาดก : ข้อคิดจากชาดก :: ๑. ผู้ที่มีหน้าที่ปราบปราม นำคนผิดมาลงโทษ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่าจับคนด้วยเพียงการคาดคะเน เพราะการลงโทษคนบริสุทธิ์เป็นบาปอย่างยิ่ง การปล่อยคนผิดไป ๑๐๐ คน ยังดีกว่าการลงโทษคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว …..๒. คนเราควรหาโอกาส “ตอบแทนคุณ” ของผู้ที่มีพระคุณต่อเราอยู่เสมอ …..๓. ผู้ที่รู้บุญคุณและตอบแทนบุญคุณ ย่อมไม่ถึงความตกต่ำอย่างแน่นอน …..๔. ผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในหลักธรรม แม้ความตายมาถึงตัว ก็มีสติตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว สามารถเผชิญความตายโดยอาจหาญ ย่อมเป็นผู้ที่ “ประสบสุขได้แม้ในยามทุกข์” …..๕. พี่น้องกันนั้น “ฆ่ากันไม่ตาย ขายกันไม่หมด” แม้จะมีเรื่องผิดใจกันอย่างไร แต่เมื่อมีเรื่องเดือดร้อน ย่อมพึ่งพากันได้ http://นิทานชาดก.whitemedia.org/
สาเหตุที่ตรัสชาดก :: …..สมัยพุทธกาล ณ แคว้นโกศล มีโจรกลุ่มหนึ่งปล้นสะดมชาวบ้านแล้วหนีไป ชาวบ้านจึงพากันหาโจรจนมาถึงหมู่บ้านชายแดนแห่งหนึ่ง พบชาย ๓ คนกำลังไถนาอยู่ จึงคิดว่าเป็นโจรปลอมเป็นชาวนา จึงจับกุมทุบตีแล้วคุมตัวมาถวายพระเจ้าโกศล …..ต่อมา ได้มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง เดินร้องให้รำพันรอบๆ พระราชวัง ขอพระราชทานเครื่องนุ่งห่ม ความทราบถึงพระเจ้าโกศล พระองค์มีรับสั่งให้นำผ้าสาฎกไปมอบให้แก่นาง แต่นางกลับยิ่งร้องไห้หนักขึ้นและกล่าว “ขอพระราชทานเครื่องนุ่งห่ม คือสามี” …..ราชบุรุษจึงนำนางไปเข้าเฝ้า พระเจ้าโกศลได้ทรงซักถาม นางจึงว่า “สามีชื่อว่าเครื่องนุ่งห่มของหญิง เมื่อไม่มีสามี แม้จะนุ่งห่มผ้าราคาตั้ง ๑,๐๐๐ กษาปณ์ ก็ชื่อว่าหญิงเปลือยอยู่นั่นเอง แม่น้ำไม่มีน้ำ ชื่อว่าเปลือย แว่นแคว้นไม่มีราชา ชื่อว่าเปลือย หญิงปราศจากสามี ถึงจะมีพี่น้องตั้ง ๑๐ คน ก็ชื่อว่าเปลือย” …..พระเจ้าโกศลเกิดเลื่อมใสจึงตรัสคืนชายหนึ่งคนให้ นางจึงขอพี่ชายและให้เหตุผลว่า ถ้ายังมีชีวิตย่อมหาสามีใหม่และมีบุตรใหม่ได้ แต่บิดามารดาได้สิ้นชีวิตไปแล้ว ไม่อาจจะมีพี่ชายได้อีก พระเจ้าโกศลเห็นความฉลาดของนางจึงโปรดไว้ชีวิตชายทั้งสาม …..เรื่องดังกล่าวเลื่องลือแม้กระทั่งในหมู่ภิกษุ ความทราบถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงระลึกชาติหนหลังด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ แล้วตรัสเล่า อุจฉังคชาดก : ข้อคิดจากชาดก :: ๑. ผู้ที่มีหน้าที่ปราบปราม นำคนผิดมาลงโทษ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่าจับคนด้วยเพียงการคาดคะเน เพราะการลงโทษคนบริสุทธิ์เป็นบาปอย่างยิ่ง การปล่อยคนผิดไป ๑๐๐ คน ยังดีกว่าการลงโทษคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว …..๒. คนเราควรหาโอกาส “ตอบแทนคุณ” ของผู้ที่มีพระคุณต่อเราอยู่เสมอ …..๓. ผู้ที่รู้บุญคุณและตอบแทนบุญคุณ ย่อมไม่ถึงความตกต่ำอย่างแน่นอน …..๔. ผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในหลักธรรม แม้ความตายมาถึงตัว ก็มีสติตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว สามารถเผชิญความตายโดยอาจหาญ ย่อมเป็นผู้ที่ “ประสบสุขได้แม้ในยามทุกข์” …..๕. พี่น้องกันนั้น “ฆ่ากันไม่ตาย ขายกันไม่หมด” แม้จะมีเรื่องผิดใจกันอย่างไร แต่เมื่อมีเรื่องเดือดร้อน ย่อมพึ่งพากันได้ http://นิทานชาดก.whitemedia.org/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)